ปัญญาปารมิตาหฤทัยสูตร

๒ จากทฤษฎีไปถึงปฎิบัติ

๒ จากทฤษฎีไปถึงปฎิบัติ

“อวโลกิตะ” มีความหมายว่า การเพ่ง
“อิศวร” มีความหมายว่า อิสระ
 
อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์
                ซึ่งเพ่งเห็นจิตใจของคนได้โดยอิสระ ปลดเปลื้องความทุกข์ทางร่างกายของพวกเรา
รวมทั้งความทุกข์ทางจิตใจ
“ได้ปฎิบัติถึงซึ้งแล้วซึ่งปารมิตา”
นั่นหมายความว่า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้ปฎิบัติตามศาสนปัญญา
ถึงซึ่งความลึกซึ้งแล้ว

พระโพธิสัตว์ท่านไม่เพียงแต่ได้เห็นได้ยินด้วยตาแห่งจิต
และหูแห่งจิตเจนจัดในปรัชญาปัญญา  
ยังได้ปฎิบัติศาสนปัญญานี้อย่างลึกซึ้ง   
หมายถึงการเข้าถึงอย่างสุดซึ้งและเยี่ยมยอด
ปัญญา นี้ก็คือ
การเพ่งเห็นความเป็นศูนย์ของสรรพสิ่ง
ฉะนั้น สิ่งที่เราจะต้องศึกษาให้มากคือคำว่า“ปฎิบัติ”

พระอาจารย์องค์หนึ่ง กล่าวว่า “ถ้าเห็นว่า ที่อาตมาพูดนั้นเป็นเรื่องไม่จริง
ท่านจงไปทราบจากการปฎิบัติและการบรรลุ”

ฉะนั้น การอ่านพระสูตรนี้
ไม่เพียงแต่อ่านด้วยใจ
จะต้องอ่านด้วยกาย
เพราะเราไม่เพียงแต่จะทราบ
ปรัชญาของปัญญาเท่านั้น
แต่เราจะต้องปฎิบัติปัญญานี้
ในทางพระศาสนาด้วย

1 ความคิดเห็น:

  1. เจริญสติปัฏฐาน4 (ดูกายใจ,รูปนาม) เห็นทุกข์(ความคิดอารมณ์เราควบคุมไม่ได้) ให้ดูและทำความเข้าใจไปจนจิตปล่อยวาง แล้วจะพบอิสระภาพจากความทุกข์ เป็นการเสร็จกิจในอริยสัจ4ไปในตัว สาธุค่ะ

    ตอบลบ